ไขข้อข้องใจ!! เรียน ป.โท ด้านการจัดการธุรกิจอาหาร FB เหมือนมีที่ปรึกษาทางธุรกิจ โดยไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่ม I CMMU Mahidol
CMMU life ไขข้อข้องใจกับการเรียนสาขาการจัดการธุรกิจอาหาร วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล คุณกัญญ์วรา แสนเยีย รุ่น FBM 21A ซึ่งทำงานและเรียนปริญญาโทพร้อมๆกัน ปัจจุบันเป็นเจ้าของธุรกิจหจก. ไรซ์ อัพ แอดว๊านซ์ วิชาไหนโดนใจ ทำไมเรียนที่ CMMU แล้วเหมือนมีที่ปรึกษาทางธุรกิจ โดยไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่ม ซึ่งทางเราถอดเทปสัมภาษณ์มีรายละเอียดต่อไปนี้
- การเตรียมสอบเข้า CMMU
จริง ๆ ศึกษาอยู่นานพอสมควรเกี่ยวกับหลักสูตรที่กำลังจะเรียนต่อปริญญาโท หลังจากนั้นก็พยายามศึกษาข้อมูลโดยการหารีวิวการศึกษาผ่านอินเทอร์เน็ต โดยเฉพาะการสอบเข้าวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล มีลักษณะการสอบเป็นอย่างไร ซึ่งเว็บไซต์ของทาง CMMU ก็มีแนวข้อสอบออนไลน์ ให้เราได้ลองทดสอบ เนื้อหาของการสอบเข้มข้นกว่าตอนสอบเข้าปริญญาตรีเล็กน้อย เบื้องต้นอยากให้ เพื่อน ๆ ลองทำข้อสอบหลาย ๆ ครั้งผ่านทางหน้าเว็บไซต์ของ CMMU ก่อน
โดยที่เพื่อน ๆ เองไม่ต้องเครียด บางครั้งแม้ว่า เตรียมตัวมาขนาดไหน เราก็อาจจะพลาดเนื่องจากไม่ได้อ่านเนื้อหาบางส่วน วิธีแก้ไขคือพยายามใช้ความรู้รอบตัวที่มีให้เป็นประโยชน์
สำหรับดิฉันเอง สิ่งที่น่าตื่นเต้นมากที่สุดคือการสัมภาษณ์ เนื่องจากเราไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่า อาจารย์จะถามคำถามใดบ้าง ถามเรื่องที่เราได้เตรียมตัวมาหรือเปล่า เมื่อเราได้พบอาจารย์จริง ๆ แล้ว ดิฉันก็บอกกับอาจารย์ตรง ๆ ว่าดิฉันตื่นเต้น แต่เมื่อพูดคุยกับอาจารย์ไปได้สักพักนึง ก็จะพบว่าอาจารย์ค่อนข้างเป็นกันเอง ทำให้ดิฉันรู้สึกผ่อนคลาย ซึ่งอาจารย์ที่ฉันได้สัมภาษณ์ คืออาจารย์สิงห์หรือ Doctor
ซึ่งทางอาจารย์สิงห์เอง ได้พยายามให้เรานั้นค่อย ๆ เล่าเรื่อง ทำไมเราถึงอยากเรียนที่ วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล อาจารย์เองก็พยายามถาม Background และประสบการณ์ต่าง ๆ ในชีวิตที่ผ่านมา
- วิชาที่ประทับใจมากที่สุด
ประทับใจทุกวิชา เนื่องจาก เมื่อเรียนแต่ละวิชาเรื่อย ๆ แต่ละวิชาล้วนเป็นจิ๊กซอว์ ของกันและกัน ไม่มีวิชาไหนที่โดดขึ้นมา แต่ทุกวิชาเป็นวิชาที่เป็นส่วนประกอบให้กันและกันเพื่อให้สามารถศึกษาต่อได้ในวิชาถัดไป ในระหว่างที่ดิฉันเรียนไปด้วยทำงานไปด้วยแต่ละวิชาสามารถหยิบประโยชน์จากสิ่งที่ได้ศึกษามาใช้งานได้จริง
ตัวที่โดดเด่นมาก ๆ สำหรับดิฉันก็คือ Business plan เป็นอาจารย์ของ CMMU และ Seminar in Management ซึ่งเป็นวิชาที่เชิญอาจารย์ข้างนอกมา ทุกวิชามักให้นักศึกษา ปฏิบัติ และทดสอบทดลองทฤษฎีต่าง ๆ ในห้อง ทั้งการออกแบบงานของเรา ถ้าเราออกแบบงานมาลักษณะนี้เราจะสามารถประยุกต์ใช้ได้อย่างไร
เหมือนเรามีที่ปรึกษาธุรกิจโดยที่เราไม่ต้อง จ่ายเงินเพิ่มแม้แต่บาทเดียว ซึ่งบุคคลที่ให้คำปรึกษาเรานั้นเป็นคณะอาจารย์ เราสามารถใช้ Case Study ของบริษัทที่ดิฉันได้ทำงานจริง ๆ นำมาให้อาจารย์คอมเมนต์ แล้วหลังจากนั้นก็ค่อย ๆ นำสิ่งที่คอมเมนต์ไปพัฒนาปรับปรุงในขั้นถัดไป
ทุกวิชาล้วนแล้วแต่มีกิจกรรม ไม่มีวิชาไหน ที่จะไม่ทำกิจกรรม ซึ่งแต่ละกิจกรรมมีความตื่นเต้น ทั้งงานเดี่ยวและงานกลุ่ม เช่น ตัวอย่าง วิชา Customer Behaviour และวิชา Marketing หรือวิชาที่จะต้องออกไป ปฏิบัติงานจริง ๆ เช่น Seminar in Management ที่จะต้องเข้าไปในร้านอาหารของผู้ประกอบการจริง ๆ โดยเฉพาะการดำเนินธุรกิจใน Food Business สิ่งที่ต้องเจอคืออะไรบาง
ได้เห็นได้เปรียบเทียบ และได้เอามา วิเคราะห์วิจารณ์กันจริง ๆ ว่าแต่ละร้านใช้กระบวนการลักษณะอย่างไรในการดำเนินธุรกิจ
- ได้นำวิชาความรู้จากที่นี้เรียน นำมาใช้ประโยชน์อย่างไร
ซึ่งในช่วงสถานการณ์โรคระบาดโควิด 19 ได้นำวิชาเหล่านี้มาปรับปรุงพัฒนาธุรกิจจำนวนมาก โดยเฉพาะเรื่องของการปรับตัว และการใช้ Timing ให้เป็นประโยชน์ และรวมไปถึง Connection ของเพื่อน ๆ ที่ได้เรียนด้วยกันมา ทุกคนคือการช่วยเหลือกัน อาจจะไม่ได้ใหญ่โตแต่นี่คือความอบอุ่นที่เกิดขึ้น เพื่อน ๆ เองต่างประกอบธุรกิจในลักษณะเดียวกัน "เรียนไปด้วยกันช่วยกันทำมาหากิน" นำสินค้าไปขาย Online ที่ไหนกันบาง
แต่ละคนมีเทคนิคและแนะนำกันและกัน เพื่อให้รอดจากสถานการณ์โรคระบาดโควิด 19 ไปให้ได้
- สำหรับการแบ่งเวลาเรียนและการทำงาน
สำหรับการแบ่งเวลาระหว่างเรียนกับทำงานทำอย่างไร สำหรับฉันมองว่า เพื่อนเท่านั้น ที่สำคัญมาก ๆ ซึ่งเพื่อน ๆ ในกลุ่มและเพื่อน ๆ ในห้องร้อยละ 80 เปอร์เซ็นต์ ส่วนใหญ่เป็นคนที่ทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย และเวลาเรียนไม่ใช่เพียงแค่วิชาเดียว ซึ่งแต่ละวิชานั้นก็จะแบ่งให้แต่ละคนนั้นเป็นหัวหน้ากลุ่ม วิชานั้นฉันถนัดวิชานี้เธอถนัดก็แบ่งปั่นช่วยเหลือกันและกัน
ที่สำคัญแบ่งปันเวลาซึ่งกันและกันเช่นช่วงเวลานี้ดิฉันไม่ว่างช่วงเวลาเธอว่างก็จะแบ่งกันว่าใครจะได้เป็นหัวหน้าเป็นกลุ่มของงาน เพราะวิธีดังกล่าวจะเป็นวิธีที่ช่วยเหลือกันและกันได้ดีที่สุด ที่สำคัญจะต้องใช้ความอดทนสูงมากเพราะเนื่องจากว่าเราเองต้องรีบมาเรียนและรีบกลับไปทำงาน
อย่างในขณะนี้ที่เกินจะกลับบ้านไม่เกิน 4-5 ทุ่ม เนื่องจากจะต้องจัดการการบ้านให้เสร็จ เพื่อที่วันพรุ่งนี้เช้าจะได้ไปทำงานได้อย่างเต็มที่ ซึ่งมันมากกว่าการแบ่งเวลาแต่มันคือความพยายาม โดยเฉพาะอย่างการเสียสละเวลามาเรียน เช่น วันเสาร์-อาทิตย์ จะต้องเอาเวลาส่วนตัวมาเรียน
ซึ่งวันเหล่านั้นโดยปกติจะเป็นวันที่ได้พักผ่อน หรือได้กินข้าวกับเพื่อน แต่หากปรับตัวได้ความสนุกก็จะเกิดขึ้นเนื่องจากมานั่งทานข้าวกับเพื่อน ๆ ของเราที่มหาวิทยาลัยแทน และที่สำคัญก็มีความสนุกสนาน เช่น แข่งกันจองห้องประชุม เพื่อที่จะให้เพื่อน ๆ ในกลุ่มของเราได้มารวมกลุ่มกันทำการบ้าน โดยเฉพาะในวันที่ไม่มีเรียน มาทำงานมาทำรายงานด้วยกันในห้อง
- การเตรียมสอบเข้า CMMU
จริง ๆ ศึกษาอยู่นานพอสมควรเกี่ยวกับหลักสูตรที่กำลังจะเรียนต่อปริญญาโท หลังจากนั้นก็พยายามศึกษาข้อมูลโดยการหารีวิวการศึกษาผ่านอินเทอร์เน็ต โดยเฉพาะการสอบเข้าวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล มีลักษณะการสอบเป็นอย่างไร ซึ่งเว็บไซต์ของทาง CMMU ก็มีแนวข้อสอบออนไลน์ ให้เราได้ลองทดสอบ เนื้อหาของการสอบเข้มข้นกว่าตอนสอบเข้าปริญญาตรีเล็กน้อย เบื้องต้นอยากให้ เพื่อน ๆ ลองทำข้อสอบหลาย ๆ ครั้งผ่านทางหน้าเว็บไซต์ของ CMMU ก่อน
โดยที่เพื่อน ๆ เองไม่ต้องเครียด บางครั้งแม้ว่า เตรียมตัวมาขนาดไหน เราก็อาจจะพลาดเนื่องจากไม่ได้อ่านเนื้อหาบางส่วน วิธีแก้ไขคือพยายามใช้ความรู้รอบตัวที่มีให้เป็นประโยชน์
สำหรับดิฉันเอง สิ่งที่น่าตื่นเต้นมากที่สุดคือการสัมภาษณ์ เนื่องจากเราไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่า อาจารย์จะถามคำถามใดบ้าง ถามเรื่องที่เราได้เตรียมตัวมาหรือเปล่า เมื่อเราได้พบอาจารย์จริง ๆ แล้ว ดิฉันก็บอกกับอาจารย์ตรง ๆ ว่าดิฉันตื่นเต้น แต่เมื่อพูดคุยกับอาจารย์ไปได้สักพักนึง ก็จะพบว่าอาจารย์ค่อนข้างเป็นกันเอง ทำให้ดิฉันรู้สึกผ่อนคลาย ซึ่งอาจารย์ที่ฉันได้สัมภาษณ์ คืออาจารย์สิงห์หรือ Doctor
ซึ่งทางอาจารย์สิงห์เอง ได้พยายามให้เรานั้นค่อย ๆ เล่าเรื่อง ทำไมเราถึงอยากเรียนที่ วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล อาจารย์เองก็พยายามถาม Background และประสบการณ์ต่าง ๆ ในชีวิตที่ผ่านมา
- วิชาที่ประทับใจมากที่สุด
ประทับใจทุกวิชา เนื่องจาก เมื่อเรียนแต่ละวิชาเรื่อย ๆ แต่ละวิชาล้วนเป็นจิ๊กซอว์ ของกันและกัน ไม่มีวิชาไหนที่โดดขึ้นมา แต่ทุกวิชาเป็นวิชาที่เป็นส่วนประกอบให้กันและกันเพื่อให้สามารถศึกษาต่อได้ในวิชาถัดไป ในระหว่างที่ดิฉันเรียนไปด้วยทำงานไปด้วยแต่ละวิชาสามารถหยิบประโยชน์จากสิ่งที่ได้ศึกษามาใช้งานได้จริง
ตัวที่โดดเด่นมาก ๆ สำหรับดิฉันก็คือ Business plan เป็นอาจารย์ของ CMMU และ Seminar in Management ซึ่งเป็นวิชาที่เชิญอาจารย์ข้างนอกมา ทุกวิชามักให้นักศึกษา ปฏิบัติ และทดสอบทดลองทฤษฎีต่าง ๆ ในห้อง ทั้งการออกแบบงานของเรา ถ้าเราออกแบบงานมาลักษณะนี้เราจะสามารถประยุกต์ใช้ได้อย่างไร
เหมือนเรามีที่ปรึกษาธุรกิจโดยที่เราไม่ต้อง จ่ายเงินเพิ่มแม้แต่บาทเดียว ซึ่งบุคคลที่ให้คำปรึกษาเรานั้นเป็นคณะอาจารย์ เราสามารถใช้ Case Study ของบริษัทที่ดิฉันได้ทำงานจริง ๆ นำมาให้อาจารย์คอมเมนต์ แล้วหลังจากนั้นก็ค่อย ๆ นำสิ่งที่คอมเมนต์ไปพัฒนาปรับปรุงในขั้นถัดไป
ทุกวิชาล้วนแล้วแต่มีกิจกรรม ไม่มีวิชาไหน ที่จะไม่ทำกิจกรรม ซึ่งแต่ละกิจกรรมมีความตื่นเต้น ทั้งงานเดี่ยวและงานกลุ่ม เช่น ตัวอย่าง วิชา Customer Behaviour และวิชา Marketing หรือวิชาที่จะต้องออกไป ปฏิบัติงานจริง ๆ เช่น Seminar in Management ที่จะต้องเข้าไปในร้านอาหารของผู้ประกอบการจริง ๆ โดยเฉพาะการดำเนินธุรกิจใน Food Business สิ่งที่ต้องเจอคืออะไรบาง
ได้เห็นได้เปรียบเทียบ และได้เอามา วิเคราะห์วิจารณ์กันจริง ๆ ว่าแต่ละร้านใช้กระบวนการลักษณะอย่างไรในการดำเนินธุรกิจ
- ได้นำวิชาความรู้จากที่นี้เรียน นำมาใช้ประโยชน์อย่างไร
ซึ่งในช่วงสถานการณ์โรคระบาดโควิด 19 ได้นำวิชาเหล่านี้มาปรับปรุงพัฒนาธุรกิจจำนวนมาก โดยเฉพาะเรื่องของการปรับตัว และการใช้ Timing ให้เป็นประโยชน์ และรวมไปถึง Connection ของเพื่อน ๆ ที่ได้เรียนด้วยกันมา ทุกคนคือการช่วยเหลือกัน อาจจะไม่ได้ใหญ่โตแต่นี่คือความอบอุ่นที่เกิดขึ้น เพื่อน ๆ เองต่างประกอบธุรกิจในลักษณะเดียวกัน "เรียนไปด้วยกันช่วยกันทำมาหากิน" นำสินค้าไปขาย Online ที่ไหนกันบาง
แต่ละคนมีเทคนิคและแนะนำกันและกัน เพื่อให้รอดจากสถานการณ์โรคระบาดโควิด 19 ไปให้ได้
- สำหรับการแบ่งเวลาเรียนและการทำงาน
สำหรับการแบ่งเวลาระหว่างเรียนกับทำงานทำอย่างไร สำหรับฉันมองว่า เพื่อนเท่านั้น ที่สำคัญมาก ๆ ซึ่งเพื่อน ๆ ในกลุ่มและเพื่อน ๆ ในห้องร้อยละ 80 เปอร์เซ็นต์ ส่วนใหญ่เป็นคนที่ทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย และเวลาเรียนไม่ใช่เพียงแค่วิชาเดียว ซึ่งแต่ละวิชานั้นก็จะแบ่งให้แต่ละคนนั้นเป็นหัวหน้ากลุ่ม วิชานั้นฉันถนัดวิชานี้เธอถนัดก็แบ่งปั่นช่วยเหลือกันและกัน
ที่สำคัญแบ่งปันเวลาซึ่งกันและกันเช่นช่วงเวลานี้ดิฉันไม่ว่างช่วงเวลาเธอว่างก็จะแบ่งกันว่าใครจะได้เป็นหัวหน้าเป็นกลุ่มของงาน เพราะวิธีดังกล่าวจะเป็นวิธีที่ช่วยเหลือกันและกันได้ดีที่สุด ที่สำคัญจะต้องใช้ความอดทนสูงมากเพราะเนื่องจากว่าเราเองต้องรีบมาเรียนและรีบกลับไปทำงาน
อย่างในขณะนี้ที่เกินจะกลับบ้านไม่เกิน 4-5 ทุ่ม เนื่องจากจะต้องจัดการการบ้านให้เสร็จ เพื่อที่วันพรุ่งนี้เช้าจะได้ไปทำงานได้อย่างเต็มที่ ซึ่งมันมากกว่าการแบ่งเวลาแต่มันคือความพยายาม โดยเฉพาะอย่างการเสียสละเวลามาเรียน เช่น วันเสาร์-อาทิตย์ จะต้องเอาเวลาส่วนตัวมาเรียน
ซึ่งวันเหล่านั้นโดยปกติจะเป็นวันที่ได้พักผ่อน หรือได้กินข้าวกับเพื่อน แต่หากปรับตัวได้ความสนุกก็จะเกิดขึ้นเนื่องจากมานั่งทานข้าวกับเพื่อน ๆ ของเราที่มหาวิทยาลัยแทน และที่สำคัญก็มีความสนุกสนาน เช่น แข่งกันจองห้องประชุม เพื่อที่จะให้เพื่อน ๆ ในกลุ่มของเราได้มารวมกลุ่มกันทำการบ้าน โดยเฉพาะในวันที่ไม่มีเรียน มาทำงานมาทำรายงานด้วยกันในห้อง
No comments: