Ads Top

เจาะลึกกลุ่มลูกค้าชาวจีนเมือง ฉงชิ่ง เศรษฐีใหม่กำลังซื้อสูง พร้อมจัดอันดับคนจีนชอบค้นหาอะไรมากที่สุดในไทย I CMMU MS






ล่าสุดสาขาการจัดการและกลยุทธ์ ( MS ) วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล หรือ CMMU ได้เชิญ คุณตั้ม อิทธิชัย อรรถกระวีสุนทร, ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Level Up Holding Co., Ltd และที่ปรึกษาด้านการตลาดในประเทศจีน ในหัวข้อ (Strategic Redesign and Innovation for Future Busienss) มาถ่ายทอดประสบการณ์ เรื่องการการมองหากลุ่มลูกค้าของชาวจีนให้กับนักศึกษาปริญญาโทของ CMMU ทั้งเรื่องกลุ่มลูกค้าของชาวจีน คนจีนชอบค้นหาอะไรมากที่สุดในประเทศไทย และแบรนด์ไทยที่ดังๆในประเทศจีน มีแบรนด์ไหนบาง ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้



คุณตั้มได้ทำการเริ่มต้นในการแบ่งประชากรของชาวจีนโดยแบ่งเป็นพื้นที่การพัฒนาเป็น Tier 1 2 และ 3 โดยถือเป็นพื้นที่ที่มีความน่าสนใจในการลงทุนในประเทศจีน มีดังต่อไปนี้ 1. พื้นที่ที่มีการพัฒนาสูงสุดคือประชากรที่อยู่ในเขตพื้นที่เมืองปักกิ่ง ซึ่งเป็นเมืองที่ตั้งของรัฐบาลจีนและมีประชากรจำนวนมากที่สุด

2. เซี่ยงไฮ้ (Shanghai) เป็นเมืองคล้ายกับฮ่องกงซึ่งเป็นเมืองที่มีความเป็น international และที่สำคัญเป็นโซนเศรษฐกิจพิเศษ

3. กว่างโจว อยู่ติดกับเซินเจิ้น ซึ่งเหมาะสำหรับการค้าขาย เป็นลักษณะของการซื้อสินค้ารูปแบบซื้อมาขายไป และที่สำคัญอยู่ใกล้เมืองไทยอีกด้วย

4. ฉงชิ่งและเฉิงตู เป็นกลุ่มคนรวยใหม่ โดยด้านขวาของประเทศจีนนั้นติดกับเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ ยังติดกับทะเลอีกด้วย ซึ่งเรือเข้ามาง่าย ดังนั้น Tier 2 และ 3 จะเป็นพื้นที่ที่มี GDP สูง แต่สำหรับด้านซ้ายของประเทศจีนนั้น ถือเป็น Tier 4 เนื่องจากเป็นโซนทะเลทราย เป็นสถานที่ติดต่อกับกลุ่มประเทศที่ชื่อลงท้ายด้วยคำว่า "สถาน" ก็ถือว่าสำคัญแต่การเดินทางค่อนข้างยาก

โดยฉงชิ่งถือเป็นหนึ่งในเขตเศรษฐกิจพิเศษของประเทศจีน ซึ่งเป็นอีกด้านหนึ่งของประเทศจีน ให้สิทธิพิเศษสำหรับบริษัทที่ไปจัดตั้งบริษัท เช่น Alibaba, IBM ก็จะไปอยู่ในที่แห่งนั้น ทำให้บริเวณนี้เริ่มมีคนที่มีฐานะทางการเงินเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ผู้คนในบริเวณนั้นเกิดการจับจ่ายใช้สอย

ใน 4 เมืองนี้ เมืองใดจ่ายเงินมาเที่ยวประเทศไทยมากที่สุด คำตอบคือ ฉงชิ่ง เพราะประชาชนในเขตเมืองฉงชิ่ง เป็นเศรษฐีหน้าใหม่ ซึ่งพวกเขาไม่ค่อยสนใจเรื่องราคามากนัก เช่น การซื้อกระเป๋า CHANEL ใบละ 3 แสนบาท พวกเขาก็สามารถซื้อของสินค้าเหล่านี้ได้อย่างต่อเนื่อง ดังนั้นในบริเวณเมืองฉงชิ่ง ถือว่าเป็นแหล่งแบรนด์เนมที่สำคัญ หากชาวเมืองฉงชิ่งมาประเทศไทยชาวไทยต้องตอบรับคนกลุ่มนี้ทันที เนื่องจากกลุ่มคนเหล่านี้มีกำลังซื้อของสูง


ตัวอย่าง เช่น พนักงานของผมเองซึ่งเป็นคนจีน นั้นจะมี Apple Watch หรือพวก iPhone 11 PRO หรือสินค้าใหม่จะซื้อทันที ซึ่งทำให้เราเห็นว่าเขาดูรวยกว่าชาวไทย หรือพนักงานมีฐานะทางการเงินที่รวยกว่าเจ้าของกิจการ

สำหรับเซี่ยงไฮ้ ประชาชนมีความสามารถในการใช้จ่ายได้สูง แต่สำหรับหรับพวกเขาสามารถอ่านภาษาอังกฤษได้ จึงมีความสามารถเลือกสินค้าได้อย่างละเอียดมากขึ้น

โดยสิ่งที่คนไทยควรจะต้องรู้ "คนจีนชอบค้นหาอะไรมากที่สุดในประเทศไทย" สิ่งเหล่านี้คือ การ Search จากประเทศจีน มีรายละเอียดดังต่อไปนี้
1. กะเทย หรือสาวประเภทสอง เนื่องจากเป็นโอกาสที่ดีเพราะประเทศจีนปิดกั้นเรื่องนี้เป็นอย่างมาก แตกต่างประเทศไทยที่เปิดโอกาสให้เพศที่สามอย่างชัดเจน และหากมองแบบเจาะลึกลงไปในรายละเอียดในกระบวนการคิดของคนจีนจะพบว่า ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางของประเทศไทยต้องดีมากๆ เนื่องจากเครื่องสำอางไทยสามารถทำให้ผู้ชายสาวกว่าผู้หญิงได้
2. นวดและสปา
3. ซีฟู๊ด
4. หาดทราย โดยชาวจีนมักนิยมค้นหาคำว่า ภูเก็ตและ พัทยา ส่วนใหญ่นั้นมักจะเป็นเป็นคณะทัวร์ ซึ่งต่อไป ชาวจีนก็จะมาในรูปแบบนักท่องเที่ยวอิสระโดยมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่ที่อยู่ติดทะเล
5. เครื่องประดับ
6. หมอนยางพารา
7. กระเป๋าหนังจระเข้
8. ยางู
9. รังนก
10. เครื่องรางของขลัง
11. ผ้าไหมไทย

แบรนด์ไทยที่ดังๆในประเทศจีนได้แก่
1. NaRaYa โดยราคาประมาณ 200-300บาท ซึ่งคนจีนชอบเนื่องจากสามารถซื้อกลับบ้านได้จำนวนมาก ซื้อกลับไปฝากเพื่อนๆชาวจีนเป็นของขวัญได้หลายชิ้น ที่สำคัญดีไซต์สวยงาม ซึ่งไม่ต่างอะไรกับเครื่องสำอางมิสทิน
2. ผลไม้อบแห้งเป็นตลาดที่มีการแข่งขันกันเป็นจำนวนมาก
3. เครื่องสำอางมิสทิน และ Snail White
4. เถ้าแก่น้อย
5. สมุนไพร
6. ยาหมอง
7. Beauty Buffet
8. ร้าน Boots



No comments:

Powered by Blogger.