BRANDiNG ชี้ องค์กรยุคใหม่ต้องแข่งขันในความคิด ชูพฤติกรรมการรักษาสิ่งแวดล้อม ขยะสามารถทำ CHV ได้
ล่าสุด คุณปิยะชาติ อิศรภักดี (แบรนดิ) ผู้เขียนหนังสือ BRANDiNG 4.0 และ Business as Unusual ได้กล่าวในงาน Marketing Conference No.31 ในวันที่ 10 มกราคม 2563 ในหัวข้อ Voice of Green : เพื่อโลก เพื่อเรา ชี้ว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ "ทำอย่างไรให้ธุรกิจของเรา เป็นที่ต้องการของสังคม และสังคมยังมีความต้องการเราอยู่" ให้สังคมมองว่าองค์กรของเราช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมทั้งตัวเราและสังคมถือเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดที่มีรายละเอียดต่อไปนี้. คุณปิยะชาติ อิศรภักดี (แบรนดิ) ผู้เขียนหนังสือ BRANDiNG 4.0 และ Business as Unusual กล่าวว่า เนื่องจากที่ผ่านมาผู้บริโภคมองว่าภาคส่วนธุรกิจ มองว่า การรักษาธรรมชาติเพื่อสังคม ถือเป็นส่วนที่สำคัญต่อการช่วยลดสภาวะแวดล้อม
ส่วนตัวมองว่าความยังยืนนั้นคือวิวัฒนาการ แบ่งออกเป็น 2 ช่วง ได้แก่ ช่วงทันสมัย และ ช่วงพัฒนาแบบความยั่งยืน ที่ผ่านมาข้อมูลดังกล่าวเป็นการส่งผ่านข้อมูลด้วยระยะสั้น
ซึ่ง "ทำดีกว่าไม่ทำ" เพื่อให้บางธุรกิจสังคมพูดถึงบ้าง แต่หากไม่ดำเนินการพลักดันธุรกิจก็ยังเจริญเติบโตไปได้ จนกระทั่งคนเริ่มเห็นโครงสร้างทางสังคมและสิ่งแวดล้อมบางอย่างกลายเป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบกับชีวิตเรา เช่น เราไม่รู้เลยว่าเราปล่อยก๊าซ CO2 สูงขนาดไหน โดยเฉพาะเมื่อเรามาเจอเหตุฉุกเฉินอย่างเรื่องฝุ่นพิษ ผู้คนต่างๆต่างเริ่มซื้อสินค้าและบริการที่ป้องกันและหลีกเลี่ยงฝุ่น
จากนี้ไปความยั่งยืนกลายเป็นเรื่องที่ทันสมัย สังคมกำลังมองว่า "สิ่งเหล่านี้เราจริงจังมากขนาดไหน เพราะอะไรปัญหาเหล่านี้ยังคงเกิดปัญหาเหล่านี้อยู่" ในขณะที่ภาคธุรกิจจึงเริ่มตอบสนองภาคสังคมที่จะตอบสนองสินค้าที่มีความยั่งยืน
ปัจจุบันเป็นเรื่องการแข่งขันในความคิด โดยไม่สามารถดำเนินธุรกิจแบบในรูปแบบเดิมๆ ที่ต้องคุมราคาให้ดี มีประสิทธิภาพสูง เสียน้อย แต่ยุคนี้เรากลับมาที่ความคิดซึ่งเป็นความคิดของระบบนิเวศทั้งหมด โดยผู้บริโภคก็ต้องเปลี่ยนพฤติกรรม โดยที่ลูกค้าไม่ได้เป็นพระเจ้าแล้วเพราะว่าลูกค้าทุกคนต้องเป็นผู้รักษาโลกของเราเช่นกัน
คนในองค์กรธุรกิจก็ต้องร่วมมือกันเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมกันทั้งองค์กร, ทั้งบอร์ดบริหารหรือผู้นำองค์กร เพราะว่าความท้าทายของเราต้องเอาแผนธุรกิจและคนเข้ามาด้วยกัน แล้วส่งผลกำไรสุทธิ
หากเรายืนยันข้อมูลว่าความสำเร็จขององค์กรคือผลประกอบการและตัวเลข ภาระเหล่านนี้จะตกไปคนทำงานทันที ซึ่งเราต้องไปเปลี่ยนความคิดใหม่ เนื่องจากทุกๆธุรกิจมีทางไปหรือวิธีการดำเนินงานอยู่เสมอโดยที่ ขยะคือสถานะแล้วเรานำกลับมาทำเป็นธุรกิจได้ หากทำได้บริษัทนั้นจะมีผลกำไรมหาศาลได้
เราสร้างธุรกิจที่ไม่มีใครอยากได้ หรือเป็นบริษัทที่ไม่มีใครอยากทำงาน สร้างธุรกิจจากทรัพยากรที่มีปริมาณมหาศาล หากคิดได้เราก็จะเห็นแนวทางในการดำเนินธุรกิจในรูปแบบใหม่ แล้วสุดท้ายสินค้าและบริการเหล่านนี้ก็จะกลับมาสู่ธุรกิจใหม่อีกครั้ง
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ "ทำอย่างไรให้ธุรกิจของเรา เป็นที่ต้องการของสังคม และสังคมยังมีความต้องการเราอยู่" การทำ CSR ถือว่าดีและมีความน่าสนใจ โดยมีวิธีคิดที่น่าสนใจ ถ้าคุณแก้ปัญหาสังคมและสิ่งแวดล้อมได้ เราก็จะมองว่าเป็น CSV โดยที่องค์กรของเราก็ได้ประโยชน์และสังคมก็ได้ประโยชน์
สำหรับผู้สนใจ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งตั้งอยู่บนถนนวิภาวดีรังสิต ลงทางด่วนดินแดง เลี้ยวซ้ายปุ๊บถึงเลย เลขที่ 69 โทรศัพท์ 02-206-2000 หรือเข้าไปที่ www.cmmu.mahidol.ac.th หาก หากใครสาย Social ก็เข้าไปที่ https://www.facebook.com/CMMUMAHIDOL/ ได้ข้อมูลครบ จบ ในที่เดียว
Thank for nice information
ReplyDeletedont forget to visit our
site